นักศึกษาอินเดียเลือกเรียนม.ถูก ๆ ในสหรัฐ
เมื่อสถานการณ์ค่าเงินรูปีของประเทศอินเดีย เริ่มดิ่งลงอย่างน่าตกใจเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ นักศึกษาแดนภารตะ ที่ไปต่อยอดการทำปริญญาที่อเมริกา ก็เริ่มเบนเข็มมาหา Public University มากขึ้น ต่างจากแต่ก่อนที่เน้นพวกม.อันดับสูง ๆ ของเอกชนที่มักมีค่าเรียนที่ลอยสูงเป็นเงาตามตัวด้วยเช่นกัน
พวกมหาวิทยาลัย “Higher ranked”and Higher-priced กลายเป็นสถาบันที่ถูกเลือกโดยนักศึกษาอินเดียน้อยลงไปมาก โดยสื่อ The Economic Times เผยว่า ในปีหนึ่งมีนักศึกษาอินเดียประมาณ 100,000 คนลงทะเบียนเรียนในสหรัฐ และจากการรวบรวมสถิติของ website, www.YourNextLeap.com ซึ่งทำการสำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า มากกว่า 1,000 คนของนักศึกษาอินเดีย หรือ 62% เลือกมหาวิทยาลัยของรัฐบาล เทียบกับปีการศึกษาที่ผ่านมา ที่มีเพียง 43%
Mohit Gundecha ซึ่งเป็นเว็บไซต์ CEO กล่าวว่า ตัวเลขแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Public universities ในสหรัฐกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม สอดคล้องกับภาวะเงินในกระเป๋าของนักศึกษา หรือผู้ปกครองของพวกเขาที่ส่งเสียให้เดินทางมาเล่าเรียน นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลบ่งบอกอีกว่า พวกนักเรียนอินเตอร์จากเอเซียตะวันตกนี้ ยังให้ความสนใจกับการสมัครขอทุน หรือทำเรื่องขอกู้เงินเพื่อการศึกษากันมากขึ้นด้วย เพื่อเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน
จากผลสำรวจ มีผู้ตอบแบบสอบถาม 40% บอกว่า พวกเขาตั้งใจเลือกมหาวิทยาลัย ที่มีค่าเรียนประจำปี อยู่ที่ ระหว่าง $15,000-$20,000 ในขณะที่ 17% ยิ่งเลือกสถาบันการศึกษาที่ค่าเทอมถูกลงไปกว่านี้อีก และหากมองทั้งหมด มีเพียง 27% ที่ตอบว่า เลือกม.ที่มี fee เกิน $25,000
Gundecha ระบุว่า มหาวิทยาลัยขวัญใจนักศึกษากระเป๋าเบาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หรือ The most popular (and more affordable) ในปีนี้ ก็คือ San Jose State University และ The University of Florida ขณะที่ม.เอกชนแห่งหนึ่งที่เคยได้รับความนิยมมาก แต่ตอนนี้ยอดตัวเลขนักศึกษาอินเดียสมัครเรียนน้อยลงไป คือ North Eastern University
Indian students ได้ชื่อว่า มีจำนวน Second largest group of foreign students in the US โดยที่นักศึกษาจีนมีมากเป็นอันดับ 1
อ่านเนื้อหาทั้งหมดได้ที่..,
