ทุนรัฐบาลไทยให้เรียนต่างประเทศ

มกราคม 6, 2010 by: 0
Visit 1,186 views

070615014712_londonสำนักงาน ก.พ.รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนรัฐบาลที่จัดสรรให้กระทรวงการต่าง ประเทศประจำปี2550 โดยเป็นทุนสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาในต่างประเทศ หรือมีสถานศึกษาตอบรับ สนใจสมัครด่วนภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้เท่านั้น

สำนัก งาน ก.พ. ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนรัฐบาลที่ จัดสรรให้กระทรวงการต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2550 (ทุนสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาในต่างประเทศหรือได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาจาก สถาบันการศึกษาในต่างประเทศ) ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา12 (8) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยทุนของรัฐบาลพ.ศ. 2535 ลงวันที่ 30 กันยายน 2535 จึงประกาศรับสมัครคัดเลือกพร้อมทั้งกำหนดหลักสูตร และระเบียบวิธีการคัดเลือกเพื่อรับทุนดังกล่าว ดังต่อไปนี้
1. ทุนที่รับสมัครคัดเลือก จำนวน 3 หน่วย รวม 5 ทุน
2. ข้อผูกพันในการรับทุน
2.1 ผู้ได้รับทุนที่สำเร็จการศึกษาตามที่กำหนดจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการ
ชดใช้ทุนที่กระทรวงการต่างประเทศ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่า ของระยะเวลาที่ได้รับทุน ในสายงานเจ้าหน้าที่การทูต
2.2 กรณีผู้ได้รับทุนไม่กลับมาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับ
กระทรวงการต่างประเทศ นอกจากจะต้องชดใช้เงินทุนที่ได้จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น ยังจะต้องชดใช้เงินอีก 2 เท่าของ
จำนวนเงินทุนดังกล่าวให้เป็นเบี้ยปรับอีกด้วย
3. ลักษณะงานที่เจ้าหน้าที่การทูตปฏิบัติ
ปฏิบัติหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างเกี่ยวกับงานในด้านการทูต การเมือง
เศรษฐกิจ การค้า สังคม และวัฒนธรรม การกงสุล เช่น ช่วยศึกษา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและข่าวสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ จดบันทึกการประชุม จัดเตรียมเอกสารการเยือนและการประชุมระหว่างประเทศช่วยจัดทำสนธิสัญญาและข้อ ตกลงระหว่างประเทศ ติดต่อประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ของประเทศต่าง ๆในประเทศไทย เผยแพร่ข่าวและวัฒนธรรม ให้การช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ เป็นต้นและปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ได้รับมอบหมายหรือเกี่ยวข้อง
4. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิu3626 มัครคัดเลือกส
ผู้มีสิทธิสมัครคัดเลือกต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
4.1 เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2535 ดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
(3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ
(4) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง
(5) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถ
หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.
(6) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งให้พักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการ
ไว้ก่อน ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือตามกฎหมายอื่น
(7) ไม่เป็นผูบ้ กพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
(8) ไม่เป็นกรรมการพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(9) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(10) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความ ผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
(11) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(12) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือตามกฎหมายอื่น
(13) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือตามกฎหมายอื่น
(14) ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการผู้ที่ขาดคุณสมบัติตาม (7) (9) (10) (11) (12) (13) หรือ (14) จะมีสิทธิสมัครสอบต่อเมื่อได้รับการยกเว้นจาก ก.พ. แล้ว สำหรับผู้ที่ขาดคุณสมบัติตาม (4) มีสิทธิสมัครสอบได้แต่จะมีสิทธิได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการ พลเรือนสามัญในตำแหน่งที่สอบได้ต่อเมื่อพ้นจากตำแหน่งข้าราชการการเมืองแล้ว
4.2 เป็นผู้ที่ไม่มีภาระผูกพันในการปฏิบัติราชการชดใช้ทุน ยกเว้นข้าราชการที่ลาศึกษาด้วยทุนส่วนตัว
4.3 ทุนศึกษาระดับปริญญาโท-เอกเป็นผู้มีอายุไม่เกิน 35 ปี นับถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2550
4.4 ทุนศึกษาระดับปริญญาเอกเป็นผู้มีอายุไม่เกิน 40 ปี นับถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2550
4.5 กรณีที่ผู้สมัครคัดเลือกเป็นผู้รับทุนรัฐบาล ซึ่งอu3618 ู่ระหว่างดำเนินการไปศึกษาวิชายณ ต่างประเทศ ไม่มีสิทธิสมัครคัดเลือกในครั้งนี้
4.6 ผู้สมัครคัดเลือกที่เป็นข้าราชการ จะต้องแสดงหนังสืออนุญาตให้สมัครคัดเลือกและยินยอมให้โอนไปปฏิบัติงานใน หน่วยงานที่ได้รับทุนจากหัวหน้าส่วนราชการเจ้าสังกัด หากมิได้แสดงหนังสือดังกล่าว จะพิจารณาไม่ให้มีสิทธิสมัคร หรือเพิกถอนการให้ทุน
4.7 เป็นผู้มีคุณสมบัติเฉพาะ ดังนี้
4.7.1 เป็นผู้กำลังศึกษาระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอก ในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง และ ก.พ. รับรอง โดยศึกษาสาขาวิชา และประเทศตามที่กำหนดไว้ในแต่ละหน่วยทุน (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายประกาศ)
4.7.2 เป็นผู้ที่ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอกจากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงและ ก.พ. รับรอง ในสาขาวิชา และประเทศตามที่กำหนดไว้ในแต่ละหน่วยทุน
5. การรับสมัครคัดเลือก
5.1 ผู้สมัครมีสิทธิสมัครทุนได้คนละ 1 หน่วย
5.2 รับสมัครคัดเลือกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2550 โดยผู้ประสงค์จะสมัครเข้ารับการคัดเลือกสอบถามรายละเอียดและขอใบสมัครได้ที่
- สำนักบริหารบุคคล กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา
- สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำสหราชอาณาจักร
- สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำสหรัฐอเมริกา
- สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศออสเตรเลีย
- สถานกงสุลใหญ่ประจำสหรัฐอเมริกา
- สถานกงสุลใหญ่ประจำออสเตรเลีย
นอก จากนี้ ผู้ประสงค์จะสมัครสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับการรับสมัคร พร้อมทั้งdownload ใบสมัครและแบบฟอร์มที่ใช้ในการสมัครคัดเลือกได้ที่ website ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่www.mfa.go.th และ website ของสำนักงาน ก.พ. ที่ www.ocsc.go.th
5.3 การยื่นใบสมัครคัดเลือก
ผู้ประสงค์จะสมัคร ให้ยื่นใบสมัครและหลักฐานการศึกษา ทาง e-mail ไป ยังสำนักบริหารบุคคล กระทรวงการต่างประเทศ ที่ permsec02@mfa.go.th โดยระบุใน Subjectว่า “สมัครทุนกระทรวงการต่างประเทศ” โดยผู้สมัครจะต้องกรอกรายละเอียดในใบสมัครคัดเลือกให้ถูกต้องและจัดส่งใบสมัครต้นฉบับซึ่งลงลายมือชื่อด้วยตนเอง พร้อมเอกสารและหลักฐานต่าง ตามข้อ 5.4ภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2550 พร้อมทั้งวงเล็บมุมซองว่าสมัครทุนกระทรวงการต่างประเทศโดยส่งผ่านช่องทาง ดังนี้
(1) ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปu3618 ังสำนักบริหารบุคคล กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ 10400
(2) สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักร
(3) สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำสหรัฐอเมริกา
(4) สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศออสเตรเลีย
- สถานกงสุลใหญ่ประจำสหรัฐอเมริกา
- สถานกงสุลใหญ่ประจำออสเตรเลีย
ทั้งนี้ จะถือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทาง หรือวันที่สถานเอกอัครราชทูตฯประทับตรารับจดหมายของผู้สมัครเป็นสำคัญ สำหรับใบสมัคร เอกสาร หลักฐานต่างๆ ที่ส่งหลังวันที่ 20มิถุนายน 2550 จะไม่รับพิจารณา
อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศจะตอบรับการสมัครทาง e-mail ภายใน 2 วันทำการหลังจากวันสมัคร กรณีที่ไม่ได้รับการตอบรับภายในกำหนด ขอให้ติดต่อโดยตรงทางโทรศัพท์หมายเลข (02) 643-5000 ต่อ 6457 หรือ 5152
5.4 เอกสารและหลักฐาน ที่จะต้องยื่นพร้อมใบสมัคร
(1) ใบสมัครพร้อมติดรูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก และไม่สวมแว่นตาดำขนาด 1 x 1.5 นิ้ว จำนวน 1 รูป ถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปี นับถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2550
(2) หลักฐานการศึกษา แล้วแต่กรณีตามที่ปรากฏในเอกสารแนบ 1
(3) สำเนาผลการสอบภาษาอังกฤษ (TOEFL หรือ IELTS) หรือภาษาท้องถิ่น ที่ใช้ในการสมัครเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษา (ถ้ามี)
(4) สำเนาผลการสอบ GRE หรือ GMAT (ถ้ามี)
(5) หนังสือรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษาหรืออาจารย์ผู้เคยสอนจำนวน 2 ท่าน รวม 2 ฉบับ โดยให้ใช้แบบฟอร์มตามเอกสารแนบ 2
(6) เอกสารซึ่งเป็นผลงานทางวิชาการ หรือกิจกรรมทางการศึกษา (ถ้ามี)
(7) ประวัติส่วนตัว (Resume) ของผู้สมัคร เขียนเป็นภาษาไทย
(8) สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) อย่างใดอย่างหนึ่ง จำนวน 1 ชุดสำเนาหลักฐานทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนรับรองว่า “สำเนาถูกต้อง”และลงชื่อกำกับไว้ด้วย
(9) ผู้สมัครที่เป็นข้าราชการจะต้องยื่นหนังสืออนุญาตให้สมัครคัดเลือกและยินยอม ให้โอนไปปฏิบัติราชการในกระทรวงการต่างประเทศ โดยให้ใช้แบบฟอร์มตามเอกสารแนบ 3
กรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นไม่สามารถนำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นพร้อมใบสมัครได้ ผู้สมัครจะต้องยื่นคำร้องขอผ่อนผันต่อสำนักบริหารบุคคล กระทรวงการต่างประเทศทาง e-mail ที่ permsec02@mfa.go.th ภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2550 และให้นำเอกสารที่ขอผ่อนผันส่งทางไปรษณีย์ด่วนลงทะเบียน ไปที่ สำนักบริหารบุคคล กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ10400 ภายในวันที่ 25 มิถุนายน 2550 พร้อมทั้งวงเล็บมุมซองว่าเอกสารสมัครทุนกระทรวงการต่างประเทศซึ่งหากพ้นกำหนดนี้จะถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครคัดเลือก ทั้งนี้ จะถือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทางประทับตรารับจดหมายของผู้สมัครเป็นสำคัญ สำหรับเอกสารหลักฐานต่าง ที่ขอผ่อนผัน ที่ส่งหลังวันที่ 25 มิถุนายน 2550 จะไม่รับพิจารณา
5.5 ผู้สมัครจะต้องตรวจสอบและรับรองตนเองว่ามีคุณสมบัติตรงตามประกาศ
รับสมัครจริง เมื่อคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกได้ตรวจสอบคุณสมบัติจากเอกสารและหลักฐานแล้ว
ถ้าปรากฎภายหลังว่าผู้ใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศรับสมัครก็จะถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติทันที
5.6 สำหรับผู้ที่ยื่นใบสมัครคัดเลือกแล้ว จะขอถอน หรือขอเปลี่ยนหน่วยที่สมัครไว้อีกไม่ได้
5.7 สำหรับผู้พิการ ตามกฎกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2537) ทางการมองเห็น ทางการได้ยินหรือการสื่อความหมาย ทางกายหรือการเคลื่อนไหว กระทรวงการต่างประเทศจะพยายามจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ในวันคัดเลือกตาม ที่แจ้งมา
5.8 สำหรับพระภิกษุสงฆ์ หรือสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบ และไม่อาจให้สอบเพื่อรับทุนรัฐบาลได้ ทั้งนี้ ตามความในข้อ 6 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17 มีนาคม 2538
6. การแต่งตั้งคณะกรรมการเกี่ยวกับการคัดเลือก
6.1 ก.พ. จะแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือก
6.2 ให้คณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกกำหนดวัน เวลา สถานที่คัดเลือกวางระเบียบและวิธีการคัดเลือก ตัดสินปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครและปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินการคัดเลือกที่ไม่ขัดกับประกาศรับสมัคร และพิจารณาผู้ได้รับทุนแทน รวมทั้งแต่งตั้งกรรมการพิจารณากลั่นกรองผู้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก และกรรมการประเมินความเหมาะสมในการรับทุน
6.3 ให้คณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกประกาศรายชื่อผู้สมัครคัดเลือก ประกาศ
รายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสมในการรับทุน ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุน และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุนแทน
7. การคัดเลือกและเกณฑ์การตัดสิน
การคัดเลือกจะใช้วิธีการประเมินความเหมาะสมในการรับทุน ดังนี้
7.1 การกลั่นกรองผู้สมัคร จะพิจารณาจากใบสมัคร ประวัติการศึกษา ประวัติส่วนตัว
ของ ผู้สมัคร สถานภาพการศึกษาในปัจจุบัน หนังสือรับรu3629 งจากอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์ผู้เคยสอน และผลงานอื่นๆ (ถ้ามี) ซึ่งเป็นผลงานทางวิชาการ หรือกิจกรรมทางการศึกษาซึ่งแสดงถึงความรู้ความสามารถขอผู้สมัคร โดยจะคัดไว้ตามจำนวนที่คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองเห็นสมควร
7.2 การสัมภาษณ์ จะสัมภาษณ์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่นพื้นความรู้ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในสาขาวิชาที่สมัคร ความสามารถทางภาษาต่างประเทศ ความตั้งใจจริงทัศนคติในการรับทุนและการกลับมารับราชการ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ การปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม เชาวน์ปัญญา และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้นทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์จะต้องเป็นผู้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจาก
คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองผู้สมัคร และจะต้องไปเข้ารับการสัมภาษณ์ตามวัน เวลา สถานที่ที่คณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกกำหนด
7.3 ผู้ผ่านการคัดเลือกในแต่ละทุนจะต้องได้คะแนนสัมภาษณ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70
7.4 ผู้ผ่านการคัดเลือกที่ได้คะแนนสัมภาษณ์สูงสุดมีสิทธิที่จะได้รับทุนก่อนผู้ผ่านการคัดเลือกที่ได้คะแนนต่ำกว่าลงมาตามลำดับ
7.5 จะประกาศรายชื่อเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับทุนเท่านั้น
7.6 กรณีทุนหน่วยใดไม่มีผู้สมัคร หรือไม่มีผู้มีสิทธิได้รับทุน คณะกรรมการดำเนินการ
คัดเลือกอาจพิจารณาให้ผู้ผ่านการคัดเลือกจากทุนหน่วยอื่นเป็นผู้มีสิทธิได้รับทุนแทน
8. การประกาศรายชื่อ
กระทรวง การต่างประเทศจะประกาศรายชื่อผู้สมัคร ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสม พร้อม กำหนดวัน เวลา สถานที่สอบ และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุนที่
- website ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ www.mfa.go.th
- website ของสำนักงาน ก.พ. ที่ www.ocsc.go.th
- สถานเอกอัครราชทูต ประจำสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และประเทศ
ออสเตรเลีย


About Auther : bowing  (420 Posts)


Share this Story

Comments are closed.

Translation

Englishภาษาไทย

คำค้น