โมร็อกโกให้ 15 ทุนเรียนป.ตรีถึงเอก
รัฐบาลโมร็อกโกประกาศให้ทุนตั้งแต่ปริญญาตรีถึงเอก ประจำปีการศึกษา 2552-53 แก่ผู้สนใจชาวไทย
เพื่อเดินทางไปศึกษาที่ประเทศโมร็อกโก จำนวน 15 ทุน
โดยไม่จำกัดว่าจะนับถือศาสนาใด แต่ต้องมีความรู้ภาษาฝรั่งเศส และอารบิกในระดับดี
การ ให้ทุนครั้งนี้ มีสาระสำคัญต่าง ๆ คือ ผู้สมัครต้องทำการส่งเอกสารการขอรับทุนผ่านช่องทางการทูต โดยส่งใบสมัครผ่านกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น การจัดทำเอกสารสมัครขอรับทุน ฝ่ายโมร็อกโกขอให้ผู้สมัครให้ความสำคัญกับการส่งเอกสารให้ครบ โดยจะต้องส่งใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบจำนวน 2 ชุด สำหรับเรื่องอายุของผู้สมัครนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถาบันการศึกษาในโมร็อกโก
สำหรับเอกสารต่าง ๆ ที่ใช้สมัคร มีดังต่อไปนี้
1.ใบสมัคร
2.สำเนาใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ได้รับการรับรองสำเนาถูกต้องจากสถาบันการศึกษา
3.สำเนาใบแสดงผลการเรียนที่ได้รับการรับรองสำเนาถูกต้องจากสถาบันการศึกษา
4.สำเนาสูติบัตร
5.สำเนาหนังสือเดินทาง
6.ใบรับรองแพทย์จากสถาบันการแพทย์ที่ได้รับการรับรองว่า ผู้สมัครมีสุขภาพดีไม่มีโรคติดต่อหรือเป็นพาหะ
7.รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป โดยระบุชื่อจริง นามสกุล และสัณชาติไว้ที่ด้านหลังรูป
8.สำหรับ ผู้สมัครเข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาโทต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม คือสำเนาใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และสำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน(Transcript of Records)ระดับปริญญาตรี ที่ได้รับการรับรองสำเนาถูกต้องจากสถาบันศึกษาและสำเนาวิทยานิพนธ์
9.สำหรับผู้สมัครเข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาเอก ต้องยื่นสำเนาผลงานวิจัย
การ เลือกสถาบันการศึกษาและวิชาที่จะศึกษาต่อผู้สมัครจะต้องระบุอย่างชัดเจน และควรมีหนังสือแสดงเจตจำนงด้วยลายมือขอรับทุนและระบุสถานศึกษาและวิชาที่ ประสงค์จะศึกษาต่อ 3 ลำดับโดยเรียงลำดับสาขาที่ประสงค์จะเข้าศึกษามากที่สุดไปยังน้อยที่สุด โดยผู้ได้รับทุนจะได้รับเงินค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 750 ดีร์แฮม หรือประมาณ 92 เหรียญสหรัฐ(ประมาณ 3,000 บาท) และได้รับการยกเว้นค่าลงทะเบียน แต่ทุนการศึกษานี้จะไม่ครอบคลุม ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาในโมร็อกโก อาทิ ค่าหนังสือ ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล
ผู้สมัครสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.amci.ma หรือติดต่อสอบถามที่กระทรวงต่างประเทศ โทร.02-6435000 ต่อ 2035 โดยเดทไลน์ในการส่งเอกสารสมัครไปยังกระทรวงต่างประเทศ คือวันที่ 31 กรกฎาคม 2552
