Open mind about the British Prime Minister Abhisit Vejjajiva.

December 9, 2009 by: 0
Visit 1,932 views

The atmosphere is tense, as in politics. EducationUK Exhibition 2009 Organized by the British Council, the Prime Minister. “International Education for Future Global Citizens and Leaders” The youth and parents have a good idea.

นายกฯอภิสิทธิ์เปิดใจชีวิตเรียนอังกฤษ

Open mind about the British Prime Minister Abhisit Vejjajiva.

                นายกรัฐมนตรีท่านนี้เป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากในเรื่องประวัติการศึกษา แม้แต่บทสัมภาษณ์ในนิตยสาร Forbes Asia เมื่อเร็วๆ นี้ก็ยังเอ่ยถึงในย่อหน้าแรกเลยทีเดียว  นายกฯ อภิสิทธิ์จบประถมศึกษาปีที่ 6 AtChulalongkorn University Demonstration School. Then traveled to England to study at the school.Cliff school gates. And studying.Eton. Prior to admission to undergraduate courses in philosophy, politics and economics. (Philosophy, Politics and Economics, P.P.E.) AtUniversity of Oxford, Oxfordshire.  กลับมาใช้ชีวิตเมืองไทยไม่กี่ปีก็กลับไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดอีกครั้ง 

              “รวมแล้ว ผมใช้ชีวิตที่สหราชอาณาจักรกว่าสิบปี” ท่านนายกฯ กล่าว “เมื่อมองย้อนกลับไป ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีในหลายๆ ประการที่ได้ไปใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักร ประการแรกคือภาษาอังกฤษ ด้วยประสบการณ์ส่วนตัว…I can confirm that after the age of learning English. 12 You do not speak English well, you should do. 11 Year that I learned English from the experience.

                  “ผมทราบว่าทุกวันนี้คนไทยจำนวนมากส่งลูกๆ เข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ หรือส่งไปเรียนต่างประเทศโดยคำนึงถึงเรื่องภาษา แต่ความจริงไม่ใช่แค่นั้น การได้ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศจะหล่อหลอมให้คุณมีทัศนคติกว้างไกล รวมถึงทำให้คุณเห็นความสำคัญของความอ่อนไหวและความแตกต่างทางวัฒนธรรม  วิธีที่ดีที่สุดที่จะลดความไม่เข้าใจกันหรือสร้างความเข้าใจอันดีในสังคม ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการทำให้เด็กและเยาวชนใช้ชีวิตและเรียนรู้ชีวิตกับคนที่แตกต่างทั้งวัฒนธรรมและเชื้อชาติ”

                   นอกจากข้อได้เปรียบด้านภาษาและวัฒนธรรมแล้ว ท่านนายกฯ ยังชี้แจงว่าการศึกษาในต่างประเทศมีความแตกต่างจากการศึกษาในประเทศอย่างเห็นได้ชัดคือด้านระบบการศึกษา 

                  “การเรียนที่ออกซ์ฟอร์ดเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก ที่นั่นไม่ได้เป็นเพียงขุมความรู้หรือสถาบันที่เพียบพร้อม แต่ผมหมายถึงระบบการเรียนการสอน  ผมสามารถบอกได้ว่ามันแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากระบบนั่งเลกเชอร์แบบมหาวิทยาลัยในบ้านเรา  ทักษะที่ผมได้สั่งสมในช่วงเวลานั้นคือการอ่านเร็ว กระบวนการคิด เพื่อที่สามารถแสดงออกและอภิปรายกับเพื่อนและอาจารย์ได้”

                     ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนก็คงอยากรู้ว่าด้วยระบบการศึกษาแบบไทย ท่านนายกฯ มีวิสัยทัศน์หรือนโยบายที่จะทำให้นักเรียนไทยเป็นประชากรในยุคโลกาภิวัฒน์ได้อย่างไร 

eduukexhibition400

                 “เป็นความท้าทายที่รัฐบาลต้องปรับปรุงหลักสูตร ซึ่งต้องเป็นใน 2 ทิศทางอย่างเป็นรูปธรรม หนึ่ง คือความจำเป็นที่จะสร้างความตระหนักว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของสัมคมโลก สอง คือจากที่เคยเน้นสอนเรื่องวิชาการ เราจะต้องเปลี่ยนให้เป็นการสอน ‘ทักษะการเรียนรู้’  คนที่ประสบความสำเร็จในอนาคตคือคนที่เรียนรู้ได้รวดเร็ว ไม่ใช่คนที่จำสิ่งที่เรียนในโรงเรียนได้”

"The state has a constitutional duty to make sure the people. 12 ปี  สำหรับในที่ห่างไกลซึ่งขาดผู้สอนที่ชำนาญในหลายๆ วิชาโดยเฉพาะภาษาต่างประเทศและวิทยาศาสตร์  ผมคิดว่าจะแก้ปัญหาโดยการสร้างเครือข่ายจากโรงเรียนที่มีคุณภาพเป็นศูนย์กลางให้โรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียง  และพยายามที่จะให้องค์กรท้องถิ่นมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการจัดหาทรัพยากร ซึ่งหมายรวมถึงการสร้างบุคลาการครูที่ดีขึ้นเองในท้องถิ่น” 

BecauseHuman development is most important.Prime Minister Abhisit.Emphasized throughout. We have to wait for the hope that the Thai study, he will do next. No investment is the most cost-effective investment in our people. This model.…Thailand is likely to be something good waiting for us..


About Auther : Webmaster  (439 Posts)

Thai Education Portal


Share this Story

Comments are closed.

Translation

Englishภาษาไทย

Search for.